วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

                     รำลึกพระคุณแม่  (กลอนสุภาพ)
                               คำว่าแม่ยากแท้หาสิ่งเปรียบ         ยากจะเทียบสิ่งใดในแหล่งหล้า
พระคุณท่านล้นเหลือจะพรรณนา       สุดจะหาสิ่งใดมาตอบแทน
            คอยอุ้มชูเลี้ยงดูตัวลูกน้อย                      ท่านค่อยค่อยประคองในอ้อมแขน
    ราวทหารปกป้องริมชายแดน                 ยอมตายแทนพลีชีพเมื่อภัยมา
แม่รักลูกท่านรักด้วยดวงจิต                   แม่พินิจพิศมองอย่าหวงหา
  ท่านเฝ้าดูลูกน้อยทุกเวลา                         ไม่คลาดตาด้วยรักและหวังดี
         ในยามใดที่ลูกนั้นเป็นทุกข์                      แม่จะคอยสร้างสุขไม่หน่ายหนี
      ด้วยความรักทั้งหมดที่แม่มี                      มาแทนที่กำจัดทุกข์ให้หมดไป
       แม่ยอมอดเพียงเพื่อให้ลูกอิ่ม                  แค่ลูกยิ้มอิ่มกว่าเป็นไหนไหน
  เป็นความอิ่มที่เกิดจากหัวใจ                   หิวเพียงใดแม่นั้นจะอดทน
     แม่ยอมทำทุกอย่างหวังลูกสุข                  ถึงแม่ทุกข์เพียงใดไม่เคยสน
     ลูกมิอาจรับรู้ได้ยินยล                                เพราะแม่ไม่เคยบ่นให้ได้ยิน
       สิ่งที่แม่ต้องการคือความรัก                      พึงประจักษ์ตอบกลับสมถวิล
        จากลูกน้อยที่แม่ให้ชีวิน                             อยากยลยินคำว่ารักจากลูกยา
     แม้ว่ามันจะเป็นเพียงลมปาก                     แต่ค่ามากเกินกว่าจะสรรหา
       เพียงลูกน้อยเอ่ยปากเปล่งวาจา                 แม่นั้นหนาก็สุขเกินบรรยาย









คิดถึง+เป็นห่วง

                                             
                                                   คิดถึง+เป็นห่วง (กลอน 6)
                                                 ตัวเล็กน่ารักน่าตี                       อวดดีทะเลาะหมาใหญ่
                                          ชอบให้เจ้าของเอาใจ                     ไปไหนร้องเรียกทุกครา
                                          ให้อุ้มมันขึ้นรถด้วย                        ชอบช่วยเลียแข้งเลียขา
                                           กลับหอมันก็ตามมา                       คล้ายว่าเป็นผู้ติดตาม
                                           ครั้งใดไม่ได้พามัน                         นอนฝันกลับไปท้วงถาม
                                           มีใครทุบตีคุกคาม                           ในยามที่มันกวนใจ
                                           เพราะมันเป็นหมาซุกซน              เผื่อใครจะทนไม่ไหว
                                           เอาไม้ไล่ตีเข้าให้                             คิดไปปวดใจทุกที
                                           หวังว่ามันคงเป็นสุข                      เจ้าของมันทุกข์เหลือที่
                                           คิดถึง “เคโร๊ะ” ตัวดี                        ตัวที่คอยเป็นเพื่อนกัน                   


                                                  
                                              สดุดีคุณสุนทรภู่ (กลอนสุภาพ)
                                        สุนทรภู่ครูกวีที่ดีเลศ                    ก่อกำเนิดกาพย์กลอนน่าหลงใหล
                      ชีวิตท่านวันวานน่าสนใจ                              ไปหนใดล้วนจารึกเป็นบทกลอน
                      ครั้นวัยเด็กอาศัยอยู่กับแม่                             ชำนาญแท้ชีวิตลิขิตอักษร
                      พ่อและแม่แยกทางต่างจากจร                       พระสุนทรจึงเลือกอยู่กับมารดา
                      ครั้นอายุถึงเกณฑ์ได้เล่าเรียน                       จึงอ่านเขียนหนังสือรู้ภาษา
                      รับราชการเป็นครูสอนเจ้าฟ้า                         แล้วต่อมาเป็นเสมียนนายระวาง
                      ครั้นลอบรักแม่จันท่านติดคุก                       พอพ้นโทษจากคุกได้สะสาง
                      หลุดคดีแล้วท่านรีบเดินทาง                        ไม่เว้นว่างหาพ่อที่เมืองแกลง
                       บันทึกการเดินทางเป็นนิราศ                      ช่างฉลาดฝากแม่แก้แถลง
                       เรียบเรียงเป็นบทกลอนผ่อนชี้แจง            เพื่อแสดงให้รู้แจ้งการเดินทาง
                       หลังจากนั้นกลับมาได้สมรส                     กับแม่หญิงยิ่งยศหวังเคียงข้าง
                       คนที่ท่านลอบรักติดตะราง                         ไมลาร้างคอยวันสมฤดี
                       หลังจากนั้นไม่นานก็เลิกกัน                       เวลาวันผันเปลี่ยนเวียนวิถี
                       แล้วท่านก็ติดคุกซ้ำอีกที                              ท่านได้แต่งพระอภัยมณีตอนจองจำ
                       หลุดพ้นโทษคราวนี้ท่านออกบวช              เนื่องเจ็บปวดจากเหตุการณ์ช่างน่าขำ
                       ขณะนั้นหันมาเรียบเรียงคำ                         ชนรุ่นหลังจดจำได้ทุกยาม
                       ชีวิตท่านได้พบกับความสุข                         เมื่อพ้นทุกข์ก็มีเรื่องสองสาม
                       บันทึกงานทุกครั้งที่ติดตาม                          หรือในยามที่ท่านพเนจร
                       ท่านจารึกบันทึกไว้มากมาย                           ห้ปวงชนทั้งหลายไว้สั่งสอน
                       กลวิธีในการเขียนคำกลอน                          แต่ครั้งก่อนเล่าสืบต่อกันมา
                       น้อมวันทากราบครูสุนทรภู่                          กายไม่อยู่ทิ้งผลงานให้ศึกษา
                        มีมากมายเกินกว่าจะพรรณนา                    ถือได้ว่าเป็นโชคดีของชาติไทย